Wednesday, October 8, 2008

กลยุทธ์ซื้อ 1 แถม 1 Versus Sale off 50%

กลยุทธ์ซื้อ 1 แถม 1 Versus Sale off 50%

วันก่อนเดินไปเที่ยวช้อปปิ้ง เป็นช่วงกระหน่ำ Summer Sale หรือ Rainy Sale อะไรก็ไม่รู้ ต่างร้านต่างขยันจัดโปรโมชั่นลดราคาสินค้า Sale off 10% บ้าง 20% บ้าง บ้าเลือดไปถึง 50% ซะก็มีให้เห็นเยอะ แต่ไปสะดุดตากับรองเท้าผู้หญิงเจ้าหนึ่งจัดโปรโมชั่นซื้อ 1 แถม 1

โฮ้ววว คนเพียบเลย ต่างจากร้านที่จัดโปรโมชั่น Sale off 50% คนมีบ้างแต่เทียบเจ้านี้ไม่ได้เลย ถ้าลองมองดูเมื่อเราซื้อ 1 แถม 1 โดยต้องจ่ายเงินราคาคู่ที่แพงกว่า เท่ากับว่าเราได้ส่วนลดสูงสุด 50% โดยอัตโนมัติ และถ้าเราเลือกรองเท้า 2 คู่ที่ราคาต่างกัน ก็เท่ากับว่าเราได้รับส่วนลดไม่ถึง 50% แต่ยังไงก็เป็นจุดที่เราพึงพอใจซื้อรองเท้าคู่นั้น โดยคนที่ได้รับประโยชน์ไปเต็มๆ หน้าตายิ้มแกมปิเลย ก็คือเจ้าของร้านที่ทำโปรโมชั่นนั้น เพราะบ้างเจ้าก็ให้ส่วนลด 50% บ้าง ต่ำกว่า 50% บ้างก็มีเยอะ เห็นมั้ยครับว่ายอดขายก็เยอะส่วนลดก็ไม่จำเป็นต้องถึง 50% ในทุกครั้งไป

เยี่ยมเลย นี่ละคือกลยุทธ์ในการสร้างความแตกต่างของการแข่งขันทางโฆษณากัน

ข้าน้อยขอคารวะ

ยอดเงินงวดแรกเข้าแล้ว

หลังจากเปลี่ยนวิธีรับเงินเป็น Direct Deposit มา 2 เดือน ยอดเงินจาก Amazon ก็เข้าซะที รอมาคั้งนาน
เมื่อสัปดาห์ก่อนก็เพิ่งจะเปิด Account YSM ใหม่อีกอันเพราะมี Coupon ฟรี $199 ที่นี่เลย

ส่วนวิธีการก็ตามนี้เลยครับ

ก็โดนไปอีก $30 ทันที และก็รออีกประมาณ 3 วัน โบนัสคูปอง $199 จึงตามเข้ามารวมเป็น $229 อะฮ่า แจ่มเลย แต่นี่ละคือกลยุทธ์ของ YSM ให้เงินเรามาง่ายๆ เราก็จะใช้มันไปอย่างง่ายๆ โดยไม่คิดมากเช่นกัน อาจจะเลือกค่า Bid สูงๆ บ้าง ก็เสร็จเลยเข้าทาง YSM เงินโบนัสหมดก็ต้องเต็มเงินเสร็จมันเหมือนเดิม
แต่สำหรับผม เริ่มมีประสบการณ์หน่อย ไม่หลงกลครับ

มาพูดถึงเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกากันบ้าง สถานะการณ์ปัจจุบันเมื่อวิกฤตต้มยำกุ้ง (Tom yum kung Crisis) ของประเทศไทยที่ส่งผลต่อภูมิภาคเอเชียเมื่อหลายปีก่อน แต่มาตอนนี้กลายเป็น Hamburger Crisis ของสหรัฐอเมริกาที่เกิดกับสถาบันทางการเงินชั้นแนวหน้าอย่าง เลห์แมน บราเธอร์ส และ AIG เป็นต้นต้องปิดกิจการไป หลังจากนั้นทางรัฐบาลได้ช่วยเอาเงินอัดฉีดช่วยภาคเอกชนลงไปอีกกว่า เจ็ดแสนล้านเหรียญสหรัฐ หวังช่วยกู้วิกฤตกาลนี้ โดนมีผู้วิเคราะห์หลายรายต่างมองว่าถึงยุคของทางภูมิภาคเอเชียแล้วที่จะเป็นผู้นำพาหรือกำกับเศรษฐกิจของโลกบ้าง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นทางประเทศจีนกลับเกิดวิกฤต Melamine Crisis เอาไปกันใหญ่ เล่นเอาอาหารของกินปั่นป่วนไปอยู่พักใหญ่เลย

แล้วทีนี้มันจะเกี่ยวข้องกับรายได้จาก Amazon มั้ยเนี่ย
ลองมองภาพรวมดูแล้วยอมมีผลกระทบแน่นอน แต่ตลาดผู้บริโภคเราสามารถขยับไปเล่นตลาด UK บ้างก็ได้ ซึ่งช่วงนี้ยอดขายลดลงอย่างไม่น่าให้อภัย โดยเป็นศูนย์ กินไข่มาตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคมแล้ว ยอด Impression ก็ลดลงอย่างหน้าตกใจ ต้องปรับกลยุทธ์อีกครั้ง คาดว่านี้คงเป็นผลพวงมาจาก Hamburger Crisis อย่างแน่แท้

แต่ไม่เป็นไร.....เกิดมาแล้วทั้งทีก็ สู้โว้ย

Tuesday, October 7, 2008

สุภาษิตฮาฮา

ไม่ได้เจอกันนานเลยครับ ไม่อยากแก้ตัวว่าไม่มีเวลา แต่มันเริ่มขี้เกียจมากกว่าครับ เซ็งตัวเองจริ๋งจริงเลย

เอาเป็นว่ามาสนุกกะสุภาษิตฮาฮา กันดีก่า Aha Aha เพิ่งนึกอะไรสนุกๆ ได้เมื่อตะกี้เอง

ใครมีเพิ่มเติมก็เอาเลยช่วยกันเต็มที่เลยนะครับ

น้ำมา ปลากินมด น้ำลด มดกินปลา....
น้ำมา ยกของหนี น้ำลด ยกของกลับ (ฮาเปล่าเนี่ย)

ขี่ช้าง จับต๊กแตน...
ขี่ช้าง จับให้แน่น เดี๋ยวตก

เข็นครก เหนื๋อยเหนื่อย.....(แป๋วววว บ้าไปแล้ว)

พูดดีเป็นศรีแก่ปาก แต่ถ้าพูดมากระวังปากจะมีสี ....(ไม่เกี่ยวข้องกรณีพี่วิศาล กะ พี่ชูวิทย์ นะคร้าบ)

เอาไว้แค่นี้ก่อนดีก่า ไปละ

Amazon.com: Bestsellers in Books

Popular Documents